เรียนต่อมหาลัยต่างประเทศ

ข้อแตกต่างระหว่างเรียนต่อมหาลัยในประเทศไทยกับต่างประเทศ

หลายคนเมื่อจบม.ปลายแล้วก็อาจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศป.ตรีหรืออาจจะเรียนต่อโท ไม่ว่าจะเป็นที่ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือแม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน เก็บกระเป๋าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้น ลองมาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศกับมหาวิทยาลัยที่ไทย เพื่อรับมือกับความแตกต่างและวิธีการเรียนการสอนกันก่อนดีกว่า

ข้อแตกต่างระหว่างเรียนต่อมหาลัยต่างประเทศกับในไทย

1. ขนาดห้องเรียน
ขนาดห้องเรียนของมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศมักจะมีขนาดเล็กกว่ามหาวิทยาลัยที่ไทย อาจารย์จะเข้าถึงนักเรียน นักเรียนจึงมีโอกาสที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ได้โดยตรง ถึงแม้ว่าในบางครั้งมหาวิทยาลัยที่ไทยจะมีการแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อยๆ แต่การเรียนการสอนก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดเท่ากับต่างประเทศ สำหรับคนไหนที่กำลังจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้น ควรที่จะปรับตัวให้ตัวเองเคยชินกับการเรียนในห้องเรียนขนาดเล็กและใกล้ชิดกับอาจารย์

2. ความร่วมมือของนักเรียน
มหาวิทยาลัยต่างประเทศมักเน้นนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนมาก่อนล่วงหน้า สรุป และนำความคิดตัวเองมานำเสนอให้กับเพื่อนและอาจารย์ สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในคลาส และนักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีต่างจากบรรยากาศห้องเรียนในเมืองไทย นักเรียนไทยที่เคยชินกับการเรียนหรือเลคเชอร์แบบสื่อสารทางเดียว (One-way communication) จึงต้องปรับตัวและต้องเตรียมความพร้อมในข้อนี้ด้วย

เรียนต่อมหาลัยต่างประเทศ

3. ความสัมพันธ์ระหว่างครู-นักเรียน
ส่วนใหญ่เมื่อคุณมาเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครูจะแตกต่างกันไปตามประเทศที่คุณศึกษา ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยตะวันตกอย่างอเมริกา ความสัมพันธ์อาจจะเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการและเป็นกันเอง ซึ่งนักเรียนสามารถสื่อสารกับครูได้อย่างอิสระ ในขณะที่มหาวิทยาลัยในประเทศแถบเอเชียอย่างสิงคโปร์หรือไทยจะมีบรรยากาศที่เป็นทางการมากกว่า มีเส้นแบ่งระหว่างนักเรียนกับอาจารย์อย่างชัดเจน การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนในมหาวิทยาลัยแถบเอเชียอาจจะเป็นทางการและเคร่งครัด ครูเคารพนักเรียนและนักเรียนต้องเคารพครูเช่นกัน

4. ความตรงต่อเวลา
ความตรงต่อเวลาของนักเรียนในการเข้าห้องเรียน หรือ คลาสเลคเชอร์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมากในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ที่เมืองนอกส่วนใหญ่นักเรียนมักมารออาจารย์ในห้องเรียนก่อนเวลาราว 10-15 นาทีเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการเรียนหนังสือ ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างประเทศจึงซีเรียสเรื่องเวลามากกว่ามหาวิทยาลัยที่ไทยซึ่งมีกฎเกณฑ์หละหลวมกว่า เพราะฉะนั้นเด็กไทยคนไหนที่จะไปเรียนต่อป.ตรีหรือป.โทต่างประเทศต้องมีวินัยในเรื่องเวลานะ

5. กิจกรรมนอกห้องเรียน
ถึงแม้ว่าทั้งมหาวิทยาลัยต่างประเทศและมหาวิทยาลัยที่ไทยจะมีกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือชมรมเหมือนกัน แต่นักเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนมากกว่าเด็กไทยมาก เพราะการเข้าร่วมชมรมในมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่นักเรียนเกือบทุกคนทำ เพราะนอกจากจะได้ทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจแล้วยังได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รู้จักเพื่อนใหม่ และฝึกวินัยให้แก่ตนเองอีกด้วย

การศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนั้นคือด่านสุดท้ายก่อนชีวิตการทำงานจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นการเลือกสถาบันการศึกษาจึงค่อนข้างมีผลต่ออาชีพในอนาคต ซึ่งผู้เรียนจึงควรพิจารณาให้รอบคอบถึงข้อดีและข้อเสียของการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทั้งในต่างประเทศและในไทย เพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง และเมื่อเริ่มต้นชีวิตในรั้วอุดมศึกษาแล้วก็อย่าลืมแบ่งเวลามาท่องเที่ยวเพื่อดูความเป็นไปของโลกและเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตด้วยนะ ชีวิตจะได้บาลานซ์

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ vayamoto.com

Releated